วันนี้ (5 ก.พ. 68) เวลาประมาณ 11.30 น. ตามวันและเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อไปถึงบริเวณปากซอยหทัยราษฎร์ 19 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พบนางสาวโศจิรัตน์ฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น wave 110i สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาตามถนนหทัยราษฎร์ เมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ นางสาวโศจิรัตน์ฯ มีท่าทางพิรุธต้องสงสัยและรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งเรียกให้หยุด เพื่อขอทำการตรวจค้นก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้นางสาวโศจิรัตน์ฯดูจนเป็นที่พอใจแล้ว พบว่าขณะนั้นนางสาวโศจิรัตน์ฯได้สะพายกระเป๋าผ้าสีดำอยู่ที่ตัวจึงได้ขอให้ถอดกระเป๋าสะพายข้างสีดำออก เพื่อที่จะส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเพื่อทำการตรวจสอบ แต่นางสาวโศจิรัตน์ฯได้ล้วงและหยิบกระเป๋าหนังสีดำขนาดเล็กที่อยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำและถือไว้ภายในมือข้างซ้าย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมขอดูกระเป๋าที่อยู่ภายในมือข้างซ้ายเพื่อตรวจสอบ แต่นางสาวโศจิรัตน์ฯไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมดูพร้อมทั้งเอะอะโวยวายและพยายามจะโยนกระเป๋าหนังสีดำดังกล่าวทิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนางสาวโศจิรัตน์ฯพร้อมทั้งยึดกระเป๋าหนังสีดำที่อยู่ภายในมือข้างซ้ายของนางสาวโศจิรัตน์ฯไว้ได้ ผลการตรวจสอบพบของกลางตามรายการดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าหนังสีดำ สอบถามนางสาวโศจิรัตน์ฯรับว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริงและตนพึ่งได้เสพยาเสพติดมาก่อนจะพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม โดยตนได้ซื้อมาจากชาย ชื่อโก้ ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ลักษณะอ้วน เตี้ย ผิวสีดำแดง บริเวณภายในซอยคู้บอน 27 จำนวน 53 เม็ด เป็นจำนวนเงิน 800 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงทำการจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอบโดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ ให้นางสาวโศจิรัตน์ฯทราบ นางสาวโศจิรัตน์ฯรับทราบและสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมนางสาวโศจิรัตน์ฯมาที่สน.มีนบุรี และทำการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นด้วยน้ำยาตรวจปัสสาวะจากองค์กรเภสัชกรรมฯต่อหน้านางสาวโศจิรัตน์ฯ นางสาวโศจิรัตน์ฯ ยินยอมให้ตรวจปัสสาวะด้วยความสมัครใจ ผลปรากฏว่าพบสารเสพติดในปัสสาวะของนางสาวโศจิรัตน์ฯ จึงนำตัวอย่างปัสสาวะของนางสาวโศจิรัตน์ฯ ไปตรวจยืนยันที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีซึ่งปรากฏผลเป็นบวก ตามใบรายงานผลการตรวจปัสสาวะดังกล่าว นางสาวโศจิรัตน์ฯยอมรับตนได้เสพยาเสพติด(ยาบ้า)ดังกล่าวมาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาเพิ่มว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอบโดยผิดกฎหมาย” “เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย””ขับขี่รถในขณะที่มีสารเสพติดให้โทษประเภทที่1ในร่างกาย” ซึ่งนางสาวโศจิรัตน์ฯเข้าใจดีแล้วนางสาวโศจิรัตน์ฯให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวนางสาวโศจิรัตน์ฯพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป
